เริ่มต้นขายสินค้าใน Shopee ขายสินค้ายังไง ให้ขายดี ได้ยอดขายเยอะๆ

Shopee หนึ่งในแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ยอดนิยม แหล่งรวมสินค้าและบริการหลากหลายประเภท อีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังจะขยายช่องทางการขายสินค้าออนไลน์ อยากเปิดร้านขายของใน Shopee วิธีสมัครขายของก็ง่ายนิดเดียว ลงสินค้าไม่กี่ขั้นตอนก็ขายได้เลย แต่การที่จะขายให้ได้ยอดตามเป้านั้น ต้องอาศัยเทคนิคพอสมควร วันนี้รวบรวมวิธีขายของใน Shopee ขายยังไงให้ขายดีมาให้แล้วค่ะ

📍สมัครขายของใน SHOPEE

หลายคนอยากขายแต่ไม่รู้สมัครขายของใน Shopee ยังไง? วิธีสมัครขายของ มีไม่กี่ขั้นตอน และวิธีสมัครที่ง่ายที่สุดก็คือ

1.ดาวน์โหลดแอปฯ Shopee ลงโทรศัพท์มือถือ รองรับการใช้งานทั้ง iOS/Android

2.กดลงทะเบียน สามาารถสมัครขายของด้ว ยเบอร์โทรศัพท์, Email, Line, Facebook หรือ Gmail ก็ได้ทั้งหมดเลยนะคะ

3.สมัครเรียบร้อยเลยก็ลงขายสินค้าได้เลย

📍เปิดร้านขายของใน SHOPEE

Shopee ให้เปิดร้านค้า ลงขายสินค้าฟรี ๆ แบบไม่ต้องจ่ายค่าเปิดร้านเลยค่ะ แต่ถ้าเราขายสินค้าผ่าน Shopee ได้ ระบบจะหักเงินค่าธรรมเนียมขายของไปนะคะ ก็คือ ทุกครั้งที่ลูกค้าโอนเงินมาซื้อสินค้าร้านเรา เงินจะถูกโอนเข้าไปให้กับ Shopee ก่อน จากนั้นระบบจะหักค่าธรรมเนียมลงขายสินค้าแล้วค่อยโอนเงินมาให้เราค่ะ ดังนั้นก่อนจะเริ่มโพสต์ขายของใน Shopee เราก็ต้องเตรียมตัวกันก่อน สิ่งที่เราต้องเตรียมไว้ก่อนมีดังต่อไปนี้ค่ะ

1.รูปภาพสินค้า : เราใส่รูปภาพได้สูงสุด 9 รูป + วีดีโอสินค้า ถ่ายให้ชัดเจน สวยงาม และเห็นสินค้าทุกมุม

2.ชื่อสินค้า : เทคนิคก็คือตั้งชื่อสินค้าด้วย Keyword ที่คิดว่าลูกค้าจะใช้ค้นหาสินค้าของเราค่ะ

3.รายละเอียดสินค้า : บอกคุณสมบัติสินค้า วิธีการใช้งาน ข้อดีของสินค้า และอย่าลืมใช้ #hashtag เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาสินค้าด้วยนะคะ

4.ราคาสินค้า : ราคาต้องเหมาะสมกับสินค้าแบบเดียวกันที่ขายอยู่นะคะ ตั้งราคายังไงก็อย่าลืมบวกค่าธรรมเนียมของ Shopee ด้วยค่ะ ไม่งั้นจะขายไปแล้วขาดทุนแน่ค่ะ

📍อัตราค่าธรรมเนียมพื้นฐานที่ SHOPEE คิดจากคุณ

1.ค่าธรรมเนียมการขาย ค่าธรรมเนียมที่คุณมาขายบนแพลตฟอร์มช้อปปี้ โดยช้อปปี้จะคิดที่ 3-5% (3% สำหรับสินค้าหมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์ และ 5% สำหรับสินค้าที่ไม่ใช่หมวดหมู่อิเล็กทรอนิกส์ (ก็คือหมวดหมู่อื่น ๆ ทั้งหมด) เช่น อาหาร แฟชั่น ฯลฯ) สำหรับค่าธรรมเนียมรายการนี้หากคุณเป็นร้านค้าทั่วไปที่ไม่ใช่ร้านค้า Shopee Mall (ร้านค้าของแบรนด์ทางการ) คุณจะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมรายการนี้เลย

2.ค่าธรรมเนียมการชำระเงิน อันนี้หมายถึง ค่าธรรมเนียมที่เมื่อลูกค้าของคุณชำระเงินค่าสินค้า เงินดังกล่าวจะต้องมีการจัดการโดยช้อปปี้ ก่อนที่จะโอนให้กับคุณเป็นทอด ๆ ซึ่งสุดท้ายแล้วเงินดังกล่าว จะโอนไปอยู่ที่บัญชีธนาคารของคุณเป็นรายได้ของคุณในที่สุด ตรงนี้แหละช้อปปี้จะมีการคิดค่าธรรมเนียมไว้ จะอยู่ที่ 2-5%

ช้อปปี้จะคิดคุณก็ต่อเมื่อคุณไปเข้าร่วมแคมเปญการตลาดของช้อปปี้ เช่น คุณไปเข้าร่วมแคมเปญนึง ช้อปปี้ก็จะให้สิทธิประโยชน์กับร้านค้าของคุณมา แต่มีข้อแม้ว่า ตลอดอายุเวลาที่คุณเข้าร่วมแคมเปญนี้ ถ้ามีคำสั่งซื้อเข้ามา ช้อปปี้ขอชาร์จค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นอีก xx เปอร์เซ็นต์นะ (xx แทนอัตราเปอร์เซ็นที่ช้อปปี้จะหักจากคุณหากคุณเข้าร่วมแคมเปญนี้) แลกกับที่คุณได้สิทธิประโยชน์จากแคมเปญที่คุณเข้าร่วมไป แบบนี้เป็นต้น ถ้าคุณไม่เข้าร่วมคุณก็ไม่เสียเพิ่ม *สำหรับรายละเอียดค่าธรรมเนียมแบบเต็มสามารถดูได้ที่ https://shopee.co.th/docs/6759

📍วิธีขายของใน SHOPEE ให้ขายดี

การขายของใน Shopee มีการแข่งขันค่อนข้างสูง มีทั้งร้านค้าของไทย ร้านค้าของจีน ที่เปิดร้านขายอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราไม่มีโอกาสขายนะคะ เพียงแค่เราต้องมีเคล็ดลับขายของกันสักหน่อยค่ะ มาดูเลย

1.Keyword ที่ลูกค้าค้นหา

ถ้าต้องการให้ลูกค้าค้นหาสินค้าหรือร้านค้าของเราเจอ อย่างแรกที่ต้องคำนึงถึงคือ คีย์เวิร์ดที่ลูกค้าใช้ในการค้นหานั่นเอง ลองดูว่าสินค้าที่เราขาย มี Keyword ใดบ้างที่เกี่ยวข้อง ถ้านึกไม่ออก ให้ลองพิมพ์ในช่องค้นหาสินค้า ก็จะแสดงชื่อสินค้าขึ้นมา หรืออาจเพิ่ม #แฮชแท็ก ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ลูกค้าเจอสินค้าของเราได้ง่ายและเร็วขึ้น

2.รูปสินค้าสวยงาม

ร้านค้ามีเยอะแยะมากมาย หลายร้านขายสินค้าประเภทเดียวกัน รูปสินค้าที่สวยงามเป็นอีกปัจจัยที่สามารถดึงดูดสายตาได้เป็นอย่างดี ชักชวนให้คนอยากกดเข้าไปดูสินค้า เพราะลูกค้าไม่มีโอกาสได้เห็นสินค้าจริง จึงควรแสดงให้เห็นรายละเอียดของสินค้าครบทุกมุมมอง และไม่ควรแต่งภาพจนดูผิดเพี้ยนจากสินค้าจริง ไม่เช่นนั้นอาจเกิดปัญหาในด้านลบตามมาได้

3.รายละเอียดสินค้า

หลายร้านต้องเสียโอกาสในการขายไปอย่างน่าเสียดาย เพียงเพราะว่าให้รายละเอียดสินค้าไม่ครบถ้วน ก่อนการตัดสินใจซื้อ ลูกค้ามักจะต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับตัวสินค้า ร้านค้าที่ใส่รายละเอียดสำคัญครบถ้วน ชัดเจน อ่านแล้วเข้าใจง่าย จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้าได้ง่ายขึ้น เพราะลูกค้าจะรู้ทันทีว่าสินค้าชิ้นนั้นตอบโจทย์ความต้องการได้หรือไม่ โดยที่บางครั้งแทบไม่ต้องถามข้อมูลเพิ่มเติมจากร้านค้าเลย

4.Status ร้านค้าต้อง Active อยู่ตลอด

ร้านค้าที่ไม่มีความเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอ อาจทำให้ลูกค้าเกิดความไม่แน่ใจว่าร้านค้ายังคงดำเนินการอยู่หรือไม่ แน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อยอดขาย สเตตัสของร้านค้าที่แสดง Active จะทำให้ลูกค้าทราบว่าร้านค้าออนไลน์ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ เป็นการเพิ่มความมั่นใจให้แก่ลูกค้าว่าทางร้านยังคงขายสินค้าและมีการอัพเดทตลอดเวลา

5.ตอบแชทเร็วทันใจ

อีกหนึ่งปัจจัยที่สร้างความน่าเชื่อถือและความ “น่าซื้อ” ให้แก่ร้านค้านั่นคือ การตอบแชทลูกค้าให้เร็วที่สุด นอกจากจะนำไปสู่การปิดการขายที่รวดเร็วแล้ว ระบบของ Shopee สามารถประมวลผลได้ว่าอัตราความเร็วในการตอบแชทมากน้อยแค่ไหน ซึ่งส่งผลต่อค่าคะแนนประสิทธิภาพการตอบแชทนั่นเอง ร้านค้าใดที่มี Rating สูง โอกาสที่จะเป็น “ร้านแนะนำ” ของ Shopee ก็มีสูงเช่นกัน

6.คะแนนรีวิวสินค้าและบริการ

ความน่าเชื่อถือมีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าทางออนไลน์อย่างมาก เพราะลูกค้าไม่รู้จักร้านค้ามาก่อน และไม่เคยเห็นสินค้าจริงจากทางร้าน การที่จะได้ยอดขายที่เพิ่มขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งมาจากคะแนะรีวิวสินค้าและบริการจากลูกค้าเก่า แน่นอนว่าหลายคนมักจะอ่านรีวิวก่อนตัดสินใจซื้อ

7.กดโปรโมทสินค้าที่ขาย

ทุก 4 ชั่วโมง ร้านค้าสามารถเข้าไปกดโปรโมทสินค้าภายในร้านได้ 5 รายการ ไม่ว่าจะเป็นสินค้ายอดนิยม สินค้าที่กำลังจัดโปรโมชั่นอยู่ โดยสินค้าที่ถูกกดโปรโมทจะถูกดันขึ้นมาอยู่ในอันดับต้นๆ ของหน้าที่แสดงสินค้า วิธีนี้ช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเข้ามาดูรายละเอียดของสินค้า และเยี่ยมชมสินค้าอื่นๆ ภายในร้าน

8.โค้ดส่วนลดและโปรโมชั่น

ร้านค้าสามารถกำหนดเงื่อนไขการใช้โค้ดส่วนลดได้ เช่น แจกโค้ดส่วนลดสำหรับลูกค้าใหม่ หรือโค้ดส่วนลดสำหรับการสั่งซื้อครั้งถัดไป ตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนด เพื่อจูงใจให้ลูกค้าอยากกลับมาซื้อซ้ำ

9.ทำแคมเปญสินค้ากับ Shopee

การเข้าร่วมแคมเปญ ทำให้ร้านมีโอกาสได้ออเดอร์เพิ่มขึ้น ซึ่งทาง Shopee มักจะจัดแคมเปญลดราคาตามเทศกาลต่างๆ ให้ร้านค้าได้เข้าร่วมอยู่บ่อยครั้ง แต่ใช่ว่าทุกร้านสามารถเข้าร่วมได้ จะต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด บางครั้ง Shopee จะช่วยซัพพอร์ตส่วนต่างราคาโปรโมชั่น ทำให้ร้านค้าได้ยอดขายไปเต็มๆ

การเปิดร้านขายของใน Shopee ก็เป็นช่องทางการขายที่เปิดร้านได้ง่าย สิ่งสำคัญคือวิธีขายของ ถ้าอยากขายดีในแอพฯ Shopee ก็ต้องขยัน Active ร้านค้า ตอบลูกค้าให้ไว